Menu Close

แนวโน้มการปรับเงินเดือนประจำปี 2563 และในอนาคต

ใกล้ ๆ สิ้นปีแล้วครับ อยากเขียนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับเงินเดือนประจำปีกันสักหน่อย ปีหน้าปี 2563 จะปรับกันเท่าไหร่ดี เศรษฐกิจก็ไม่ดี ฟังข่าวแต่ละวันก็รู้สึกห่อเหี่ยวแทนพนักงานและบริษัท “สติ” เท่านั้นครับที่พอช่วยได้ในช่วงนี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ ท่านครับ

เอ้า!!! กลับไปที่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ กันดีกว่าครับ หลาย ๆ คนก็สอบถามกันเข้ามา ในเวทีการบรรยายสัมมนา ลูกศิษย์ลูกหา ผู้เข้าอบรมถามว่า ปีหน้าเอายังงัยดีครับอาจารย์ จะปรับเงินเดือนกันเท่าไหรดี ไม่ปรับได้มั้ย?

ก่อนตอบ…ผมจะให้ดูข้อมูลบางอย่างครับ

แนวโน้มการปรับเงินเดือนประจำปี 2562

บังคลาเทศ เวียดนาม และอินเดีย มีตัวเลขการปรับเงินเดือนประจำปีอยู่ที่ 9-10% ตัวเลขนี้เคยเกิดขึ้นในบ้านเราเมื่อหลายปีก่อน โดยเฉพาะก่อนเหตุการณ์ต้มยำกุ้งอันลือลั่นเขย่าโลก ส่วนประเทศไทยเราก็อย่างที่ทราบครับ ประมาณ 5% ในขณะที่ออสเตรเลียและญี่ปุ่น ก็ 2-2.6%            

เห็นตัวเลขแล้ว หลาย ๆ ท่านอาจจะอุทานออกมาว่า อุตะ!! ทำไมญี่ปุ่นปรับเงินเดือนน้อยจังเลย ขอโทษนะครับ รู้มั้ยว่า “ฐานเงินเดือน” ของญี่ปุ่นเค้าเป็นอย่างไร ไม่ต้องตกใจครับ ตัวเลขการปรับเงินเดือนเหล่านี้ ไม่ได้สะท้อนการปรับเงินเดือนจริง ๆ กันสักเท่าไหร่หรอกครับ ประเทศด้านซ้ายมือที่ปรับกันเยอะ ๆ นั้น แต่จริง ๆ แล้วฐานเงินเดือนไม่สูงครับ ในขณะที่ญี่ปุ่นหรืออสเตรเลียแม้อัตราการปรับจะน้อย แต่ฐานเงินเดือนสูง ไม่ต้องสงสารเค้าครับ สงสารตัวเราเองดีกว่า

แล้วถามว่า ในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไปในอนาคต บริษัทในบ้านเราจะมีโอกาสปรับเงินเดือนเป็นแบบบังคลาเทศ เวียดนามและอินเดียหรือไม่? คำตอบคือ “ไม่” อย่างแน่นอนครับ มันเป็นอดีตไปแล้ว ในอนาคตเราจะเป็นแบบออสเตรเลียและญี่ปุ่นอย่างแน่นอน จะค่อย ๆ ปรับตัวไปเป็นแบบนั้น เพราะฐานเงินเดือนของเราจะเพิ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ อัตราการปรับเพิ่มก็จะน้อยลงไปเรื่อย ๆ

            ตั้งแต่หลังเหตุการณ์ต้มยำกุ้งเป็นต้นมา การปรับเงินเดือนประจำปีเราจะไม่ปรับกันเยอะ ๆ แล้วครับ เพราะเป็น “ต้นทุนในระยะยาว” (Running Cost) ที่ส่งผลต่อต้นทุนเรื่องอื่น ๆ อีกเป็นเงาตามตัว เช่น OT เพิ่มขึ้น เป็นต้น อัตราการปรับจึงดูเทียบเคียงกับตลาดว่าโอเคมั้ย จะไม่สูงหรือต่ำกว่าตลาดเยอะ ๆ แบบในอดีตอีกแล้ว ถ้าจะปรับในอัตราสูง ๆ เช่น 10% – 20% ก็มีครับ แต่คนที่จะได้คือ “พนักงานกลุ่มดาวเด่น” (Talent) เท่านั้น

            ถ้าสังเกตกันให้ดี จะเห็นว่าเกือบทุกบริษัทในปัจจุบัน หันไปจ่าย “โบนัส” ในอัตราที่สูงขึ้นกว่าในอดีตมาก เหตุผลเพราะเป็นค่าตอบแทนที่ตัดมาจาก “ผลกำไร” หรือผลงาน ดังนั้นไม่กระทบกับต้นทุนในระยะยาว และเป็นการจูงใจและจ่ายตามผลงานให้กับพนักงาน

            จากที่คุยเล่ากันมาทั้งหมด ขอฟันธงครับว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อัตราการปรับเงินเดือนโดยเฉลี่ยในบ้านจะทรง ๆ (5%) และจะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ อย่างแน่นอนครับ แต่มีแนวโน้มจ่ายอัตราสูง ๆ ให้กับพนักงานกลุ่มเก่ง ๆ มีมากขึ้น ตามแนวคิดการจ่ายค่าตอบแทนตาม “ตัวบุคคล” (Person value) ที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน

ทิศทางการปรับเงินเดือนประจำปีของประเทศไทย

โจทย์ใหญ่ในอนาคตจึงไม่ใช่ “อัตรา” หรือตัวเลขการปรับเงินเดือนแล้วครับ แต่อยู่ที่ปรับแล้วทำอย่างไรให้มัน “คุ้มค่า”

ดร.สุพจน์ นาคสวัสดิ์

ที่ปรึกษา/วิทยากรและนักเขียนอิสระ / www.hrzania.com / ID Line : supotnaksawat / Tel. 087-6018039